ประยุทธ์ ชื่นชมผลประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 38 และ 39 ปีหน้าพบกันที่กัมพูชา

ประยุทธ์ ชื่นชมผลประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 38 และ 39 ปีหน้าพบกันที่กัมพูชา

พลเอกประยุทธ์ ชื่นชมผลการ ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 38 และ 39 มีเอกสารรับรองจากผู้นำทั้งสิ้น 25 ฉบับ ปีหน้าพบกันที่กัมพูชา ภายหลังการเข้าร่วมพิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.64 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล

ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 

ได้กล่าวสรุปสาระสำคัญของพิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนครั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ ได้กล่าวปิดในฐานะประธานอาเซียนและได้ส่งมอบตำแหน่งให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาซึ่งจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2565 สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ ได้กล่าวถึงการหารือในช่วงเวลา 3 วัน ที่ผ่านมาว่า อาเซียนสร้างความก้าวหน้าร่วมกัน ในการตอบโต้สถานการณ์โรคอุบัติใหม่ และสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงการรับมือเพื่อดูแลสุขภาพจิตของประชาชนอาเซียน วางรากฐานในการรับมืออนาคต การลงทุนเพื่อเยาวชน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ

ทั้งนี้ การสร้างประชาคมอาเซียนที่มั่นคง มั่งคั่งยังเป็นเรื่องที่สำคัญในภูมิภาค ซึ่งกัมพูชาในฐานะประธานอาเซียนปี 2565 ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ว่าพร้อมนำอาเซียนเร่งรัดการสร้างประชาคมที่เข้มแข็ง มีส่วนร่วม สอดคล้องกับจิตวิญญาณอาเซียน โดยในด้านการเมือง กัมพูชาจะเน้นย้ำการเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียน กลไกระดับภูมิภาค ความร่วมมือกับภายนอก และการสร้างภูมิต้านทานให้อาเซียน ด้านเศรษฐกิจ เร่งส่งเสริมการนำข้อริเริ่มไปสู่การปฏิบัติ ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าที่ดีที่สุด ด้านสังคม จะส่งเสริมทุนมนุษย์ ส่งเสริมบทบาทสตรี และเยาวชน ซึ่งในโอกาสนี้ นายกฯ กัมพูชาได้อวยพรให้ผู้นำอาเซียนทุกคนประสบความสำเร็จ และหวังว่าจะได้พบกันที่กัมพูชาในการประชุมปีหน้า

สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 38 และ 39 บรรดาผู้นำได้รับรองเอกสารทั้งสิ้น 25 ฉบับ อาทิ ปฏิญญาบันดาร์เสรีเบกาวันว่าด้วยข้อริเริ่มเชิงยุทธศาสตร์และองค์รวมเพื่อเชื่อมโยงการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติของอาเซียน, แถลงการณ์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยการยกระดับการปรับเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน, กรอบความร่วมมือเศรษฐกิจใส่ใจที่ครอบคลุมของอาเซียน, แถลงการณ์ร่วมของการประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 22 ว่าด้วยการส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-จีน ว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

‘ราชกิจจาฯ’ ประกาศ ห้ามชุมนุม-มั่วสุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เจอคุกสองปี

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ห้ามชุมนุม-มั่วสุม ทั่วอาณาจักร ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท มีผลเดือนหน้า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ เอกสารประกาศ เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) (ฉบับที่ 13) โดยในเอกสารมีเนื้อหาดังนี้

ตามที่รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 36) ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 18/2564 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการฟื้นฟูประเทศเพื่อประโยชน์ด้านการใช้ชีวิตความเป็นอยู่และด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน เห็นควรให้มีการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศได้มากขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวมของประเทศ

แม้ว่าที่ผ่านมาภาพรวมของสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายสาธารณสุขสามารถควบคุมและจำกัดขอบเขตพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคได้ รวมทั้งรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมโดยประสานความร่วมมือกับประเทศต้นทาง และบูรณาการการทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนในการกำหนดมาตรการรองรับเพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบควบคู่กับการกำหนดมาตรการทางด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ให้ประชาชนมีความปลอดภัย รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศอันจะส่งผลให้การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินการควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ข้อ 3 และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2563 ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง แต่งตั้งผู้กำกับการปฏิบัติงาน หัวหน้าผู้รับผิดชอบและพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 3 (6) และข้อกำหนด คำสั่ง ประกาศ ที่เกี่ยวข้อง จึงให้ปฏิบัติดังนี้

ให้ยกเลิกประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) (ฉบับที่ 11) ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุมการทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป